วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2553

เรื่องน่าอ่าน

เป็นเรื่องที่ดี ม๊าก มาก อ่านวันไหนก็รู้สึกว่าจะต้องทำอะไรขึ้นมาทันที โปรดอ่าน ดีมาก ๆๆๆ หลังจากที่แต่งงานมาได้ 21 ปี ผมก็ค้นพบวิธีใหม่ในการทำให้ความรักสดใสมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ เพราะวันหนึ่งภรรยาผมบอกว่า ผมต้องออกเดทกับผู้หญิงคนหนึ่ง มันเป็นไอเดียของเธอล้วน ๆ จริง ๆ นะ ' ฉันรู้ว่าคุณรักเธอ ' ภรรยาผมว่า ' แต่ผมรักคุณนี่ ' ผมเถียง ' ฉันรู้ค่ะ แต่คุณก็รักเธอคนนี้ด้วยเหมือนกัน ' ผู้หญิงคนนั้นที่ภรรยาอยากให้ผมไปหา คือ แม่ของผมเอง ซึ่งเป็นหม้ายมา 1 9 ปีแล้ว เนื่องจากงานที่รัดตัวแล ะต้องดูแลลูก ๆ ทำให้ผมไปเยี่ยมแม่เพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้น วันที่ผมโทรไปหาแม่เพื่อชวนท่านออกไปทานข้าวเย็นและดูหนัง แม่ถามว่า ' มีอะไรหรือ ? ลูกสบายดีรึเปล่า ? ' แม่ผมเป็นผู้หญิงประเภทที่คิดว่าการที่คนโทรมาหากลางดึก หรือเชิญอย่างกระทันหัน หมายความว่ามีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขึ้น ผมตอบแม่ว่า ' ผมว่าดีออกถ้าเราได้ใช้เวลากันตามลำพังสองคน แม่ลูกบ้าง ' แม่นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า ' แม่ยินดีมากเลยจ้ะ ' เย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน ผมขับรถไปรับแม่ที่บ้าน ผมรู ้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อผมไปถึงบ้านแม่ ผมก็สังเกตได้ว่า แม่เองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน แม่สวมเสื้อโค้ทนั่งรอผมอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว แม่ม้วนผมแล้วสวมชุดที่แม่ใส่ในวันฉลองครบรอบการแต่งงานครั้งสุดท้าย พลางยิ้มรับผมด้วยใบหน้าที่แจ่มใสราวกับทูตสวรรค์ แม่บอกเพื่อนๆว่าแม่จะออกไปเที่ยวกับลูกชาย พวกเขาประทับใจกันใหญ่ ' แม่พูดขณะที่กำลังก้าวขึ้นรถ ' พวกเขารอฟังแทบไม่ไหวเลย ' เราไปภัตตาคารที่ถึงแม้จะไม่หรูหรา แต่ก็ดีเยี่ยม และบรรยากาศก็อบอุ่นสบาย ๆ มาก ๆ แม่ควงแขนผมเดินราวกับว่าเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง หลังจากที่เรานั่งลงเรียบร้อยแล้ว ผมต้องเป็นฝ่ายอ่าน เมนูอาหาร เพราะสายตาของแม่อ่านได้เพียงตัวหนังสือตัวใหญ่ ๆ เท่านั้น เมื่อผมอ่านเมนูอองเทรไปได้เพียงครึ่ง ผมเงยขึ้นมองเห็นแม่กำลังมองดูผมอยู่ด้วยรอยยิ้มระลึกถึงความหลัง ตอนที่ลูกยังเล็กนั้น แม่ต้องเป็นคนอ่าน เมนูให้ลูกฟัง ' แม่ว่า ' งั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ผมจะผลัดเวรให้แม่น ั่งฟังสบายๆบ้าง ' ผมตอบ ในระหว่างมื้ออาหารนั้น เราคุยกันอย่างถูกคอ - ไม่ใช่เรื่องราวพิเศษอะไร - เพียงแต่สลับกันถามว่าชีวิตของเรา เป็นยังไงทำอะไรที่ไหนมาบ้าง เราคุยกันสนุกมากจนไปดูหนังไม่ทัน เมื่อผมไปส่งแม่ที่บ้าน แม่พูดว่า ' แล้วแม่จะออกไปเที่ยวกับลูกอีกนะ แต่คราวนี้ลูกต้องยอมให้แม่เป็นเจ้าภาพนะจ๊ะ ' ผมตอบตกลง ' ดินเนอร์เป็นยังไงบ้าง ?' ภรรยาถามเมื่อผมกลับถึงบ้าน ' ดีเยี่ยมกว่าที่ผมคิดไว้มากเลย ' ผมตอบ ไม่กี่วันต่อมา แม่ผมเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน มันเกิดขึ้นกระทันหันมากจนผมช่วยอะไรไม่ทันเลย หลายวันต่อมา ผมได้รับจดหมายพร้อมใบเสร็จจากภัตตาคารที่ผมกับแม่เคยไป มีโน๊ตเล็กๆแนบมาด้วยว่า ' แม่จ่ายค่าอาหารชุดนี้เรียบร้อยแล้ว แม่รู้อยู่แล้วว่าแม่คงไปไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม แม่ก็จ่ายสำหรับสองคน คือลูกกับภรรยา ลูกคงเดาไม่ถูกหรอกว่าวันนั้นมีความหมายต่อแม่มากแค่ไหน , รักลูกจ้ะ ' วินาทีนั้น ผมเข้าใจถึงความสำคัญของการกล่าวคำว่า ' รัก ' ต่อคนที่เรารักในช่วงเวลาที่เค้าต้องการมัน ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าครอบครัวของคุณ จงให้เวลากับพวกเค้าในเวลาที่พวกเค้าต้องการคุณ เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่อาจผลัดวันประกันพรุ่งได้ บางคนบอกว่า หลังจากที่คุณคลอดบุตรแล้วต้องใช้เวลาราว 6 สัปดาห์จึงจะคืนสู่สภาพเดิม คนนั้นไม่รู้ว่าหลังจากที่คุณได้เป็นแม่คนแล้ว ไม่มีคำว่าคนเดิมอีกต่อไป บางคนบอกว่า คนเราเรียนรู้การเป็นแม่ได้เองตามสัญชาติญาณ คนนั้นไม่เคยพาลูกสามขวบไปซูเปอร์มาร์เกต บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นน่าเบื่อ คนนั้นไม่ เคยนั่งรถที่ลูกวัยรุ่นขับหลังจากที่ได้ใบขับขี่มาหมาดๆ บางคนบอกว่า ถ้าคุณเป็นคนดี ลูกออกมาก็จะดีเอง คนนั้นนึกว่าเด็กคลอดออกมาพร้อมกับคู่มือการใช้และใบรับประกัน บางคนบอกว่า แม่ที่ดีไม่ควรขึ้นเสียงกับลูก คนนั้นไม่เคยเปิดประตูหลังบ้านออกมาทันได้เห็นลูกหวดลูกกอล์ฟเข้าใส่หน้าต่างครัวของเพื่อนบ้านพอดิบพอดี บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นไม่ต้องมีการศึกษาก็ได้ คนนั้นไม่เคยช่วยลูกประถมสี่ทำการบ้านเลข บางคนบอกว่า แม่รักลูกคนที่ห้าไม่เท่าลูกคนแรก คนนั้นไม่เคยมีลูกห้าคน บางคนบอกว่า ช่วงที่ยากที่สุดของการเป็นแม่คือตอนเลี้ยงและตอนคลอด คนนั้นไม่เคยยืนดูลูกขึ้นรถเมลไปโรงเรียนอนุบาลวันแรก หรือขึ้นเครื่องบินไปบู๊ทแคมป์ของทหาร บางคนบอกว่า งานของแม่นั้นหมูๆ ปิดตาสองข้าง หรือมัดมือไว้ข้างหนึ่งก็ยังไว้ คนนั้นไม่เคยสอนการออกเดินขายคุ๊กกี้ให้กับเหล่ายุวนารี 7 คนที่กระจุ๊กกระจิ๊กคิกคักกันอยู่ตลอดเวลา บางคนบอกว่า แม่เลิกกังวลได้แล้ว หลังจากที่ลูกแต่งงานออกเรือนไป คนนั้นไม่รู้ว่าการแต่งงานคือการนำลูกชายหรือลูกสาวคนใหม่เข้ามาอยู่ในสายใยใจของแม่ บางคนบอกว่างานของแม่สิ้นสุดลงเมื่อลูกคนสุดท้ายออกจากบ้านไป คนนั้นไม่เคยมีหลานยาย หรือหลานย่า บางคนบอกว่า แม่รู้ดีอยู่แล้วว่าคุณรักท่าน เพราะงั้น ไม่ต้องบอกท่านก็ได้ คนนั้นไม่เคยเป็นแม่คน โปรดส่งต่อถึงทุกคนที่เป็น ' แม่ ' และทุกคนที่มี ' แม่ '

รายงานนวัตกรรม

แบบรายงานนวัตกรรม

=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-
1. ชื่อนวัตกรรม การช่วยเหลือซึ่งกันและกันของกลุ่มครอบครัวเด็กที่มีพัฒนาการช้า
2. นวัตกรรมด้าน การพัฒนา
3. ความเป็นนวัตกรรม
ในการกระตุ้นพัฒนาการเด็ก การดูแลด้านจิตใจของครอบครัวนับเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพราะครอบครัวที่มีบุตรพัฒนาการช้า หรือมีภาวะปัญญาอ่อนย่อมทุกข์ใจ เสียใจ ผิดหวังและวิตกกังวล หากไม่สามารถปรับตัวปรับใจให้ผ่านช่วงวิกฤตไปได้ ย่อมเกิดความท้อแท้ หมดกำลังใจที่จะดูแลบุตร ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการฝึกพัฒนาการทำให้เด็กพัฒนาการไม่ก้าวหน้าตามที่ควร ดังนั้นบิดามารดาและคอบครัวของเด็กเหล่านี้จึงควรไดรับความช่วยเหลือประคับประคองจิตใจ เพื่อให้สามารถที่จะเผชิญกับวิกฤตที่เกิดขึ้นได้
4. กระบวนการได้มาซึ่งนวัตกรรม
4.1 วัตถุประสงค์เป้าหมาย
เพื่อให้ครอบครัวที่มีบุตรพัฒนาการช้าได้มาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการเลี้ยงดูบุตรและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ในการดูแลบุตรในทางที่ถูกต้องเหมาะสม
4.2 การออกแบบนวัตกรรม
- .ให้ความรู้บุคลากรและพัฒนาทักษะในการทำกลุ่ม
- เชิญชวนครอบครัวอาสาสมัครที่มีบุตรพัฒนาการช้าเข้าร่วมทึม
- ประชุมทุกวันพุธที่ 3 ของเดือน
- จัดกิจกรรมพิเศษได้แก่ จัดประชุมวิชาการให้ความรู้ครอบครัว ปีละ 2 ครั้ง
- จัดทำจุลสาร “สายใยไออุ่น” และจัดงานพบปะสังสรรค์ ปีละ 2 ครั้ง
4.3 การนำสู่การปฏิบัติ
- จัดกิจกรรมค่ายสำหรับเด็กที่มีพัฒนาการช้า เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว และส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก
5. คุณค่าของนวัตกรรม
- ได้เรียนรู้และฝึกทักษะการทำกลุ่มระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับครอบครัวของเด็กที่มีพัฒนาการช้า
- ได้รับรู้ปัญหาของครัวเด็กที่มีพัฒนาการช้า และสามารถนำมาพัฒนาให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันของครอบครัวและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป